จีไอเอส เผยทริค Eco-driving ลดมลภาวะป้องกันฝุ่น PM 2.5 ยั่งยืน แนะโซลูชัน NOSTRA Telematics หนึ่งตัวช่วยลดมลพิษบนท้องถนน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในสาเหตุของปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่ปกคุลมเมืองอยู่ในขณะนี้ มากกว่า 50-60% มาจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซลตามการเปิดเผยข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ  ซึ่งนอกจากจำนวนรถยนต์มหาศาลภายในเมืองที่ร่วมกันปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เข้าสู่สิ่งแวดล้อมโดยตรงและปัจจัยร่วมอื่นๆ แล้วนั้น การขับรถและใช้รถที่ไม่ถูกวิธีก็มีส่วนทำให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเกินความจำเป็นอันมีผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงเช่นกัน ดังนั้น การร่วมกันแก้ปัญหานี้ในระยะยาว ทุกคนสามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากการใช้รถของตนซึ่งแม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วสามารถเกิดผลกระทบที่ดีแก่สังคมโดยรวมได้มหาศาลการขับรถที่ไม่ปลอดภัยและไม่ถูกวิธีนั้น มีผลเสียมากกว่าที่เราคิด เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้วยังทำให้เกิดการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงสิ้นเปลืองเกินความจำเป็นและสร้างมลพิษทางอากาศอีกด้วย จากข้อมูลการศึกษาของค่ายรถยักษ์ใหญ่ยี่ห้อหนึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ว่ามีผลต่อการใช้น้ำมันและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกิโลเมตรอย่างไรระบุว่า ลักษณะนิสัยการขับขี่แบบ Eco-driving หรือ การขับขี่อย่างชาญฉลาดเพื่อประหยัดพลังงาน จะช่วยลดทั้งอัตราการใช้น้ำมันและการปล่อยไอเสียได้สูงสุดถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการขับขี่แบบ “ค่าเฉลี่ยปกติ” โดยการเปลี่ยนแปลงวิธีการขับขี่เพียงเล็กน้อยจะสามารถประหยัดน้ำมันได้อย่างมากมายมหาศาล นอกจากนั้นผู้ใช้รถยนต์ควรใส่ใจดูแลรถยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในท้องถนน แต่ยังเป็นกำลังสำคัญ ช่วยลดมลภาวะในอากาศและลดการใช้เชื้อเพลิงอีกด้วย เช่น การทำความสะอาดไส้กรองสม่ำเสมอ ไส้กรองอากาศที่ไม่สะอาดจะทำให้อากาศผ่านได้น้อยหรือเกิดการอุดตัน เป็นเหตุให้รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ และยังทำให้เกิดควันดำจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ได้ การทำความสะอาดไส้กรองสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยการเป่าด้วยลมจากด้านใน เพื่อให้ฝุ่นที่จับบนไส้กรองหลุดออกมาด้านนอก ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดไส้กรองตามที่คู่มือการใช้รถกำหนด หรือเมื่อตรวจพบว่าไส้กรองไม่สะอาด โดยอาจสังเกตจากอัตราการใช้น้ำมันที่เปลืองกว่าปกติ รวมถึงควรตรวจเช็คและเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นตามระยะที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้รถ หรือก่อนกำหนด เพราะน้ำมันหล่อลื่นที่มีสิ่งสกปรกเข้าไปผสมอยู่ทำให้คุณภาพการทำงานของน้ำมันเสื่อมลง ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ และกำลังของเครื่องยนต์ลดลงด้วย ในขณะที่มีการดึงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปกระตุ้นให้เครื่องยนต์ทำงานได้ในระดับเดิม เป็นผลให้ใช้น้ำมันโดยสิ้นเปลือง ด้านผู้ขับขี่เองแม้ว่าจะอยู่ในรถก็ยังไม่ปลอดภัยจากปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก เนื่องจากอากาศในรถยนต์เป็นระบบปิด เมื่อมีการเปิด-ปิดประตูก็มีโอกาสสูงที่ฝุ่นละอองจะเข้ามาในห้องโดยสาร ผู้เดินทางควรศึกษาข้อมูลค่ามลพิษในพื้นที่เดินทางเพื่อพิจารณาหลีกเลี่ยงหรือเตรียมรับมือ  โดยมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการข้อมูลตรวจเช็คค่าฝุ่นละอองในจุดต่าง ๆ เช่น NOSTRA […]

มาทำความรู้จัก! “เทเลเมติกส์” เทคโนโลยียุค 4.0 ผู้ช่วยสำคัญธุรกิจยานยนต์และโลจิสติกส์

ในยุค Digital Transformation เช่นนี้ เทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่ภาคธุรกิจยานยนต์และการขนส่ง ซึ่งมีการนำเครื่องมือหลากหลายประเภทเข้ามาใช้งาน ทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล กระทั่งล่าสุด ก็มาถึงการใช้ Big Data จากเทคโนโลยี “เทเลเมติกส์” (Telematics) ซึ่งกำลังจะกลายเป็นหัวใจสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง ท่ามกลางยุค IoT ที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ถูกเชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ต และ Big Data ไว้ด้วยกัน และเมื่อเทคโนโลยี เทเลเมติกส์ ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการกลุ่มรถ การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ นอสตร้า โลจิสติกส์ (NOSTRA Logistics) ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันจัดการงานขนส่งและโลจิกติกส์ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท จีไอเอส จำกัด ในเครือบริษัท ซีดีจี ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “เทคโนโลยี Telematics และ IoT สามารถนำมาใช้ประโยชน์ที่สำคัญที่สุด 2 ประการ คือ ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และการบำรุงรักษายานยนต์ชะลอความสึกหรอของเครื่องยนต์” วิวัฒนาการเทคโนโลยี ไม่ได้มีประโยชน์แค่ “ธุรกิจ” แต่ “ลดอุบัติเหตุ” ได้ด้วย ใครจะเชื่อว่า “เทเลเมติกส์” และ “IoT” […]

นอสตร้า โลจิสติกส์ แนะธุรกิจขนส่งปรับตัว ใช้ดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่นบริหารธุรกิจ เปิดตัว “นอสตร้า เทเลเมติกส์” โซลูชันใหม่เพื่อการขนส่งในยุค 4.0

นอสตร้า โลจิสติกส์ โซลูชันด้านการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ โดยบริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี ชี้ความท้าทายของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง คือ การขนส่งได้ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากที่สุด ในขณะที่มีความปลอดภัยตลอดทุกขั้นตอนของการขนส่ง รวมทั้งการปรับตัวโดยการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นในทุกส่วนของธุรกิจเพื่อบริหารและจัดการงานขนส่ง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุค 4.0 เผยการติดตั้งอุปกรณ์ GPS เพื่อติดตามรถเพียงอย่างเดียวในปัจจุบัน ไม่เพียงพอกับการแข่งขันในธุรกิจขนส่ง ล่าสุด! เปิดตัว “นอสตร้า เทเลเมติกส์” โซลูชันใหม่ที่ใช้ IoT (Internet of Things) ในการเชื่อมต่อและสื่อสารกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งภายในรถที่เน้นเรื่องการตรวจสอบและป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายในระหว่างการขับรถ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน โดยสามารถแจ้งเตือนคนขับได้แบบเรียลไทม์ และเก็บข้อมูลของระบบเครื่องยนต์ในการใช้รถตามการใช้งานจริง เพื่อประเมินสภาพรถขนส่งและวางแผนการบำรุงรักษารถ รวมทั้งแสดงรายงานผลในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับสรุปผลการวิ่งงานขนส่ง พร้อมรายงานประเมินคะแนนพฤติกรรมผู้ขับขี่ ตลอดจนคำนวณค่าใช้จ่ายในการใช้รถ มั่นใจในอนาคตเทเลเมติกส์จะกลายเป็นระบบพื้นฐานที่ประกอบมาพร้อมกับตัวรถจากโรงงานผลิต โดย Berg Insight คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนอุปกรณ์เทเลเมติกส์ติดตั้งในรถขนส่งมากถึง 100 ล้านชุดภายในปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 159 ล้านชุดในอีก 2 ปีข้างหน้า นางสาวปิยวดี […]

จริงหรือไม่ Telematics ลดการสูญเสียทรัพยากรและการบำรุงรักษารถได้ยาวนานอย่างปลอดภัย

จากบทความสองตอนก่อนหน้านี้ (จับตา อุตสาหกรรมขนส่งและยานยนต์ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) อย่างไร และ เมื่อโลกเชื่อมต่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Telematics) จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจขนส่งกำลังปรับตัวรับเทคโนโลยี Telematics เพื่อประโยชน์ที่สำคัญที่สุด 2 ประการ คือ ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการบำรุงรักษายานยนต์และชะลอความสึกหรอของเครื่องยนต์ รถยนต์สำหรับบุคคลทั่วไปมักใช้ Telematics เพื่อรับบริการสื่อสารแบบ On-board ผ่าน Application จากผู้ให้บริการข้อมูล เช่น ข้อมูลติดตามตำแหน่งรถ ข้อมูลแจ้งการบำรุงรักษารถเมื่อถึงรอบที่กำหนด การประสานงานข้อมูลและการช่วยเหลือต่างๆ เป็นต้น แต่ในธุรกิจขนส่งที่มีรถจำนวนมาก หรือเรียกว่า Fleet vehicles มักจะใช้ Telematics เพื่อบริหารจัดการ ตรวจสอบ สื่อสารและควบคุมการขับรถในแบบ On-board และ Real time ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของยานยนต์ ระบุพิกัดตำแหน่ง ติดตามสถานะการขับขี่ และสื่อสารกับรถขนส่งเป็นกลุ่มได้จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างศูนย์ควบคุมและตัวรถขนส่งแล้ว Telematics ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรและการบำรุงรักษารถได้อย่างไร ? ในต่างประเทศ มีคำหนึ่งคำที่มาพร้อมกับคำว่า […]

IoT ตอน 2 : เมื่อโลกเชื่อมต่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Telematics

จากบทความที่แล้ว (จับตา อุตสาหกรรมขนส่งและยานยนต์ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) อย่างไร) ได้เล่าถึงความเกี่ยวข้องระหว่างอุตสาหกรรมยานยนต์ และเทคโนโลยี Telematics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ภายในเครือข่ายก่อนที่สังคมจะเข้าสู่ยุค Internet of Things (IoT) ในบทความนี้ จะมาดูกันต่อว่าเมื่อนำความอัจฉริยะของ Telematics และ IoT มาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และรถขนส่ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประโยชน์ได้มากมายเพียงใด แม้ว่าการให้พนักงานขับรถเข้าอบรมการขับขี่ปลอดภัยจะเป็นพื้นฐานแรกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ด้วยเทคโนโลยี Telematics สามารถทำได้มากกว่า ทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถและลดการสูญเสียทรัพยากรเพื่อการบำรุงรักษารถอีกด้วย การใช้ Telematics สามารถตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับรถ และนำผลที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงการขับรถให้ปลอดภัยมากขึ้น พฤติกรรมการขับรถที่ไม่ปลอดภัย เช่น การเร่งความเร็วกะทันหัน เบรกกะทันหัน เปลี่ยนเลนกะทันหัน และการขับรถด้วยความเร็วสูง เป็นต้น อุปกรณ์ Fatigue Monitoring System เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ Telematics ที่ใช้ Image processing ช่วยแก้ปัญหาความประมาทและอาการหลับในได้ดีที่สุด โดยตรวจจับใบหน้าของผู้ขับรถ เพื่อตรวจสอบความเหนื่อยล้า และการละสายตาออกจากถนน รวมถึงช่วยป้องกันการหลับใน เมื่อตรวจจับพบความผิดปกติบนใบหน้าของผู้ขับรถอุปกรณ์จะแจ้งเตือนให้ผู้ขับรู้ตัวเพื่อระมัดระวัง […]

จับตาอุตสาหกรรมขนส่งและยานยนต์ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) อย่างไร

ขณะที่นักการตลาดและภาคธุรกิจกำลังตื่นเต้นกับคำว่า Internet of Things หรือ IoT เพราะเทคโนโลยีของ IoT นั้นได้สร้างพรมแดนใหม่ของการใช้ข้อมูลและสร้างประสบการณ์ใหม่ที่มีความหลากหลายและล้ำมากไปกว่าเดิมหลายเท่า ทางฝั่งนักเทคโนโลยีต่างก็พัฒนาอุปกรณ์ ระบบ รวมถึงโซลูชั่นต่างๆ เพื่อนำเสนอความสามารถที่เหนือกว่าด้วย IoT เรียกว่าเป็นการต่อยอดนวัตกรรมยุค Internet ที่พลิกโฉมไปหลายวงการเลยทีเดียว ยุคที่เรียกว่า Internet of Things (IoT) คือ ยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ถูกเชื่อมโยงสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้เราสามารถสื่อสาร สั่งการ หรือควบคุมการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยอุปกรณ์ประเภท Smart Deviceและ Application มีการประยุกต์ใช้ IoT ในสิ่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่อุปกรณ์บนร่างกาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องใช้ภายในบ้าน ตลอดจนการพัฒนา IoT เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะ และใช้ IoT ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ในแง่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ก็เช่นกัน ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งอันที่จริงเกิดขึ้นก่อนจะเกิดกระแส “IoT” อย่างกว้างขวาง ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีนวัตกรรมที่เป็นการสื่อสารข้อมูลระหว่างเครือข่ายมานานแล้ว เรียกว่า เทเลเมติกส์ (Telematics) เป็นการผสมระหว่างคำว่า […]

เปลี่ยนวิธีจัดการธุรกิจขนส่งแบบดั้งเดิม สู่ยุค Digital Transformation ที่ใช้งานได้จริง

องค์กรที่ต้องการอยู่รอดหรือสามารถแข่งขันได้ในโลกปัจจุบันที่ดิจิตอลเข้ามามีบทบาทมหาศาล มีหลักการง่ายๆ ที่จะต้องเข้าใจก่อนว่า การจะปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่โลกดิจิตอลผ่านกระบวนการทำ Digital Transformation นั้น จะต้องสร้างดิจิตอลเข้าไปใน Core ของธุรกิจ   ปรับใช้ดิจิตอลกับเทคโนโลยีในทุกส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่โมเดลธุรกิจ กระบวนการทำงาน สินค้าและบริการ แผนการตลาดและการขาย รวมถึงการบริการลูกค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง และต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อเลือกกลยุทธ์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม การนำเทคโนโลยีใดๆ เข้ามาใช้ในธุรกิจต้องสามารถช่วยแก้ปัญหากระบวนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น ประหยัดเงินที่รั่วไหลจากกระบวนการต่างๆ ลดขั้นตอนที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ตัดสินใจได้เร็วขึ้น ทันต่อความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ธุรกิจขนส่ง เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ตอบรับการปรับตัวเข้าสู่กระบวนการทำ Digital Transformation เป็นกลุ่มแรกๆ และมีการลงทุนในเทคโนโลยีหลากหลายระบบ เนื่องจากกระบวนการขนส่งถือเป็นกระบวนการใหญ่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่ทำหน้าที่ควบคุมงานขนย้าย รวบรวม และกระจายสินค้าและบริการ จากต้นทางไปสู่ปลายทางซึ่งมีตัวแปรหลายส่วนเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า สินค้า คลังสินค้า จุดกระจายสินค้า และรถขนส่งสินค้า ดังนั้นธุรกิจจะบริหารจัดการอย่างไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่องานมีความซับซ้อนหลายจุดส่ง อีกทั้งยังมีลูกค้า สินค้า พนักงานขับรถและรถขนส่งจำนวนมาก  การจัดการธุรกิจขนส่งแบบดั้งเดิมคงไม่เพียงพออีกต่อไปในยุคดิจิตอลที่มีเทคโนโลยีพร้อมสนับสนุนคุณในแบบ Real Time เหนื่อยน้อยลงแต่ทำงานง่ายขึ้น กับ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ใช้งานได้จริง […]

ขับขี่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี ADAS

เทคโนโลยีกับโลกในยุคปัจจุบันเป็นเรื่องที่ตัดกันไม่ขาด เราจะเห็นได้ว่าในชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่เว้นแม้กระทั่งการขับขี่ มีการพัฒนาระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง หรือเทคโนโลยี ADAS ซึ่งพัฒนาขั้นมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ Advanced Driver Assistance System (ADAS) เป็นการผสมผสานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีและผู้ขับขี่ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งการติดตั้งระบบแบบ Built-In ในรถที่ประกอบออกมาจากโรงงาน หรือเป็นอุปกรณ์เสริมให้ติดตั้งเพิ่มจากเดิม โดย ADAS มีระบบความปลอดภัยหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามความสามารถของอุปกรณ์ ดังยกตัวอย่างเช่น Pedestrian Collision Warning (PCW)ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีสิ่งกีดขวางอยู่หน้ารถ Forward Collision Warning (FCW)ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีการขับรถระยะกระชั้นชิด ขณะรถคันข้างหน้าเคลื่อนที่ Lane Departure Warning (LDW)ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีการเปลี่ยนเลนกระทันหัน เตือนให้รักษาตำแหน่งรถในเลน Headway Monitoring & Warning (HMW)ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีการขับรถระยะกระชั้นชิด ขณะรถคันข้างหน้าเคลื่อนที่ Intelligent High-Beam Control (IHC)ระบบควบคุมไฟหน้าอัจฉริยะตามสภาพแวดล้อม และเลี่ยงการรบกวนผู้ใช้ถนนร่วม Traffic Sign Recognition (TSR)ระบบตรวจจับป้ายกำหนดความเร็วและสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่หากขับรถเกินกว่ากำหนด ระบบ ADAS กำลังพัฒนาไปอีกมาก การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จึงเป็นการช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งยกระดับมาตรฐานการขับขี่และความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มรถให้บริการสาธารณะและการขนส่ง โดย NOSTRA Logistics นอกจากจะให้บริการระบบ GPS Tracking ในปัจจุบันก็ได้มีการนำเทคโนโลยี ADAS เข้ามาให้บริการกับลูกค้าที่สนใจแล้ว […]

ไทยน้ำทิพย์จับมือ NOSTRA พัฒนาระบบติดตามขนส่งสินค้าประสิทธิภาพสูง

ไทยน้ำทิพย์จับมือ NOSTRA Logistics พัฒนาระบบติดตามขนส่งสินค้าประสิทธิภาพสูง มุ่งรักษามาตรฐานผู้นำโลจิสติกส์ รับยุค Digital Transformation หลายองค์กรในประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับยุคที่ Digital Transformation (ดิจิตอล ทรานส์ ฟอร์เมชั่น) เข้ามามีส่วนปฏิวัติสร้างการเปลี่ยนแปลงในทุกแวดวงอุตสาหกรรม ด้วยการมุ่งใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม มาใช้ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ของกระแสโลกและการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ธุรกิจการขนส่งก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวเองให้พร้อม เพราะมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การบริหารจัดการเส้นทางเดินรถให้สามารถกระจายสินค้าออกไปยังลูกค้า หรือผู้บริโภคได้ทันเวลา และแม่นยำ ทั้งยังสามารถบริหารต้นทุนการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากความเสียหายของต้นทุนการขนส่งถือเป็นต้นทุนสำคัญที่สามารถสร้างผลกระทบมหาศาลให้กับธุรกิจ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะทำให้สามารถควบคุมดูแลงานขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้หลักการสำคัญของระบบการขนส่ง คือ “การถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย ถูกต้อง และทันเวลา” บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์โคคาโคล่า แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก ผู้มี ประสบการณ์ด้านการขนส่งและกระจายสินค้าทั่วประเทศยาวนานมากกว่า 50 ปี ที่แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทชั้นนำด้านโลจิสติกส์ เมื่อถึงยุคที่เทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ไทยน้ำทิพย์ได้มองหาเครื่องมือหรือโซลูชั่นที่จะช่วยสนับสนุนการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถ ลดปัญหาการทำงานของพนักงาน และสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา นายพิศิษฐ์ ฟองภู่ รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ-โลจิสติกส์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด […]