จริงหรือไม่ Telematics ลดการสูญเสียทรัพยากรและการบำรุงรักษารถได้ยาวนานอย่างปลอดภัย

จากบทความสองตอนก่อนหน้านี้ (จับตา อุตสาหกรรมขนส่งและยานยนต์ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) อย่างไร และ เมื่อโลกเชื่อมต่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Telematics) จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจขนส่งกำลังปรับตัวรับเทคโนโลยี Telematics เพื่อประโยชน์ที่สำคัญที่สุด 2 ประการ คือ ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการบำรุงรักษายานยนต์และชะลอความสึกหรอของเครื่องยนต์ รถยนต์สำหรับบุคคลทั่วไปมักใช้ Telematics เพื่อรับบริการสื่อสารแบบ On-board ผ่าน Application จากผู้ให้บริการข้อมูล เช่น ข้อมูลติดตามตำแหน่งรถ ข้อมูลแจ้งการบำรุงรักษารถเมื่อถึงรอบที่กำหนด การประสานงานข้อมูลและการช่วยเหลือต่างๆ เป็นต้น แต่ในธุรกิจขนส่งที่มีรถจำนวนมาก หรือเรียกว่า Fleet vehicles มักจะใช้ Telematics เพื่อบริหารจัดการ ตรวจสอบ สื่อสารและควบคุมการขับรถในแบบ On-board และ Real time ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของยานยนต์ ระบุพิกัดตำแหน่ง ติดตามสถานะการขับขี่ และสื่อสารกับรถขนส่งเป็นกลุ่มได้จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างศูนย์ควบคุมและตัวรถขนส่งแล้ว Telematics ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรและการบำรุงรักษารถได้อย่างไร ? ในต่างประเทศ มีคำหนึ่งคำที่มาพร้อมกับคำว่า […]

IoT ตอน 2 : เมื่อโลกเชื่อมต่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Telematics

จากบทความที่แล้ว (จับตา อุตสาหกรรมขนส่งและยานยนต์ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) อย่างไร) ได้เล่าถึงความเกี่ยวข้องระหว่างอุตสาหกรรมยานยนต์ และเทคโนโลยี Telematics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ภายในเครือข่ายก่อนที่สังคมจะเข้าสู่ยุค Internet of Things (IoT) ในบทความนี้ จะมาดูกันต่อว่าเมื่อนำความอัจฉริยะของ Telematics และ IoT มาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และรถขนส่ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประโยชน์ได้มากมายเพียงใด แม้ว่าการให้พนักงานขับรถเข้าอบรมการขับขี่ปลอดภัยจะเป็นพื้นฐานแรกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ด้วยเทคโนโลยี Telematics สามารถทำได้มากกว่า ทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถและลดการสูญเสียทรัพยากรเพื่อการบำรุงรักษารถอีกด้วย การใช้ Telematics สามารถตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับรถ และนำผลที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงการขับรถให้ปลอดภัยมากขึ้น พฤติกรรมการขับรถที่ไม่ปลอดภัย เช่น การเร่งความเร็วกะทันหัน เบรกกะทันหัน เปลี่ยนเลนกะทันหัน และการขับรถด้วยความเร็วสูง เป็นต้น อุปกรณ์ Fatigue Monitoring System เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ Telematics ที่ใช้ Image processing ช่วยแก้ปัญหาความประมาทและอาการหลับในได้ดีที่สุด โดยตรวจจับใบหน้าของผู้ขับรถ เพื่อตรวจสอบความเหนื่อยล้า และการละสายตาออกจากถนน รวมถึงช่วยป้องกันการหลับใน เมื่อตรวจจับพบความผิดปกติบนใบหน้าของผู้ขับรถอุปกรณ์จะแจ้งเตือนให้ผู้ขับรู้ตัวเพื่อระมัดระวัง […]

อุบัติเหตุจากผู้ขับขี่ ลดได้ด้วยเทคโนโลยี eSafe

สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมีหลายสาเหตุ เช่น สภาพแวดล้อมบนท้องถนน ความพร้อมของยานพาหนะ แต่กว่า 70% นั้น มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ เช่น การขับรถเร็วเกินกำหนด การหลับใน และความประมาท ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่มีผลมากที่สุด ดังนั้นการควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับขี่จึงถือเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นลำดับแรก หากเป็นเมื่อก่อนการควบคุมพฤติกรรมการขับขี่คงทำได้ยาก แต่ในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยี eSafe เข้ามาใช้เพื่อช่วยควบคุมพฤติกรรมผู้ขับรถโดยเฉพาะ eSafe เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต่อเข้ากับ อุปกรณ์ Black Box เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับระบบติดตาม GPS และทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ช่วยของผู้ขับขี่ จะคอยแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่มีพฤติกรรมในการขับรถที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับรถกระชาก แซงหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน หักเลี้ยวอย่างรุนแรง เป็นต้น เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือหาก eSafe จึงเหมาะกับผู้ประกอบการที่มีการใช้รถและพนักงานขับรถในการขนส่งสินค้าหรือบริการรูปแบบต่างๆ เพราะหากพนักงานมีการขับรถในลักษณะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะทำการจดบันทึกรายละเอียดการกระทำผิดและรายงานไปยังผู้ดูแล เพื่อเก็บข้อมูลและทำการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ต่อไป เทคโนโลยี eSafe ที่ NOSTRA Logistics สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับรู้ถึงพฤติกรรมในการขับขี่ของตนเองจากข้อมูลรายงาน และสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งกับผู้ขับขี่ ผู้ประกอบการและผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป เมื่อผู้ขับขี่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีขึ้น ความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตก็จะลดลงตามมา ครั้งต่อไป NOSTRA Logistics จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในวงการ […]