จีไอเอส เผยทริค Eco-driving ลดมลภาวะป้องกันฝุ่น PM 2.5 ยั่งยืน แนะโซลูชัน NOSTRA Telematics หนึ่งตัวช่วยลดมลพิษบนท้องถนน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในสาเหตุของปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่ปกคุลมเมืองอยู่ในขณะนี้ มากกว่า 50-60% มาจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซลตามการเปิดเผยข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ  ซึ่งนอกจากจำนวนรถยนต์มหาศาลภายในเมืองที่ร่วมกันปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เข้าสู่สิ่งแวดล้อมโดยตรงและปัจจัยร่วมอื่นๆ แล้วนั้น การขับรถและใช้รถที่ไม่ถูกวิธีก็มีส่วนทำให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเกินความจำเป็นอันมีผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงเช่นกัน ดังนั้น การร่วมกันแก้ปัญหานี้ในระยะยาว ทุกคนสามารถเริ่มได้ง่ายๆ จากการใช้รถของตนซึ่งแม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วสามารถเกิดผลกระทบที่ดีแก่สังคมโดยรวมได้มหาศาลการขับรถที่ไม่ปลอดภัยและไม่ถูกวิธีนั้น มีผลเสียมากกว่าที่เราคิด เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้วยังทำให้เกิดการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงสิ้นเปลืองเกินความจำเป็นและสร้างมลพิษทางอากาศอีกด้วย จากข้อมูลการศึกษาของค่ายรถยักษ์ใหญ่ยี่ห้อหนึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ว่ามีผลต่อการใช้น้ำมันและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกิโลเมตรอย่างไรระบุว่า ลักษณะนิสัยการขับขี่แบบ Eco-driving หรือ การขับขี่อย่างชาญฉลาดเพื่อประหยัดพลังงาน จะช่วยลดทั้งอัตราการใช้น้ำมันและการปล่อยไอเสียได้สูงสุดถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการขับขี่แบบ “ค่าเฉลี่ยปกติ” โดยการเปลี่ยนแปลงวิธีการขับขี่เพียงเล็กน้อยจะสามารถประหยัดน้ำมันได้อย่างมากมายมหาศาล นอกจากนั้นผู้ใช้รถยนต์ควรใส่ใจดูแลรถยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในท้องถนน แต่ยังเป็นกำลังสำคัญ ช่วยลดมลภาวะในอากาศและลดการใช้เชื้อเพลิงอีกด้วย เช่น การทำความสะอาดไส้กรองสม่ำเสมอ ไส้กรองอากาศที่ไม่สะอาดจะทำให้อากาศผ่านได้น้อยหรือเกิดการอุดตัน เป็นเหตุให้รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ และยังทำให้เกิดควันดำจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ได้ การทำความสะอาดไส้กรองสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยการเป่าด้วยลมจากด้านใน เพื่อให้ฝุ่นที่จับบนไส้กรองหลุดออกมาด้านนอก ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดไส้กรองตามที่คู่มือการใช้รถกำหนด หรือเมื่อตรวจพบว่าไส้กรองไม่สะอาด โดยอาจสังเกตจากอัตราการใช้น้ำมันที่เปลืองกว่าปกติ รวมถึงควรตรวจเช็คและเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นตามระยะที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้รถ หรือก่อนกำหนด เพราะน้ำมันหล่อลื่นที่มีสิ่งสกปรกเข้าไปผสมอยู่ทำให้คุณภาพการทำงานของน้ำมันเสื่อมลง ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ และกำลังของเครื่องยนต์ลดลงด้วย ในขณะที่มีการดึงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปกระตุ้นให้เครื่องยนต์ทำงานได้ในระดับเดิม เป็นผลให้ใช้น้ำมันโดยสิ้นเปลือง ด้านผู้ขับขี่เองแม้ว่าจะอยู่ในรถก็ยังไม่ปลอดภัยจากปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก เนื่องจากอากาศในรถยนต์เป็นระบบปิด เมื่อมีการเปิด-ปิดประตูก็มีโอกาสสูงที่ฝุ่นละอองจะเข้ามาในห้องโดยสาร ผู้เดินทางควรศึกษาข้อมูลค่ามลพิษในพื้นที่เดินทางเพื่อพิจารณาหลีกเลี่ยงหรือเตรียมรับมือ  โดยมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการข้อมูลตรวจเช็คค่าฝุ่นละอองในจุดต่าง ๆ เช่น NOSTRA […]

จริงหรือไม่ Telematics ลดการสูญเสียทรัพยากรและการบำรุงรักษารถได้ยาวนานอย่างปลอดภัย

จากบทความสองตอนก่อนหน้านี้ (จับตา อุตสาหกรรมขนส่งและยานยนต์ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) อย่างไร และ เมื่อโลกเชื่อมต่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Telematics) จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจขนส่งกำลังปรับตัวรับเทคโนโลยี Telematics เพื่อประโยชน์ที่สำคัญที่สุด 2 ประการ คือ ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการบำรุงรักษายานยนต์และชะลอความสึกหรอของเครื่องยนต์ รถยนต์สำหรับบุคคลทั่วไปมักใช้ Telematics เพื่อรับบริการสื่อสารแบบ On-board ผ่าน Application จากผู้ให้บริการข้อมูล เช่น ข้อมูลติดตามตำแหน่งรถ ข้อมูลแจ้งการบำรุงรักษารถเมื่อถึงรอบที่กำหนด การประสานงานข้อมูลและการช่วยเหลือต่างๆ เป็นต้น แต่ในธุรกิจขนส่งที่มีรถจำนวนมาก หรือเรียกว่า Fleet vehicles มักจะใช้ Telematics เพื่อบริหารจัดการ ตรวจสอบ สื่อสารและควบคุมการขับรถในแบบ On-board และ Real time ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของยานยนต์ ระบุพิกัดตำแหน่ง ติดตามสถานะการขับขี่ และสื่อสารกับรถขนส่งเป็นกลุ่มได้จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างศูนย์ควบคุมและตัวรถขนส่งแล้ว Telematics ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรและการบำรุงรักษารถได้อย่างไร ? ในต่างประเทศ มีคำหนึ่งคำที่มาพร้อมกับคำว่า […]